หมอนิธิพัฒน์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กบอก เว็บตรง เล่าวินาทีที่ ผู้ว่าสมุทรสาคร ร้องไห้ หลังเจอกับลูกสาวผ่านทางกระจก นายแพทย์ นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กบอกเล่าเรื่องราววินาทีที่ ลูกสาวของ นาย วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พบกับผู้เป็นพ่อที่ป่วยเป็นโรคโควิดผ่านทางกระจก
โดยในข้อความระบุว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข
แต่ถ้ามันมากนักกำลังกายและพลังสมองคงจะแปรผกผันและลดถอยไปตามกาลเวลา แม้ใจจะอ้างว่ายังสู้ก็ตาม ลืมเล่าไปเมื่อวานว่าคืนวานซืนหนึ่งวันก่อนที่จะมาทำหัตถการพิเศษทางระบบการหายใจให้พ่อเมืองสาคร ลูกสาวคนเล็กถามด้วยความห่วงใย (คนทำหรือหรือคนถูกทำหัตถการ) ว่า ปีนี้อายุก็จะครบห้ารอบเต็มแล้ว พ่อทำหัตถการนี้ด้วยตัวเองไปครั้งสุดท้ายเมื่อไร ตอบไปว่านานมากจนจำไม่ได้แล้ว แต่ยังกำกับการทำหัตถการนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อฝึกฝนหมอปอดมาตลอด 30 ปีไม่เคยห่างเลยนะ อารามรีบร้อนจึงลืมถามไปว่าเขาคิดอย่างไรถึงถามออกมาเช่นนั้น
เมื่อวานหลังได้บรีฟและทบทวนแผนงานก่อนเริ่มงาน ให้ทีมแพทย์ ทีมพยาบาล และทีมเจ้าหน้าที่ซึ่งจะเข้าช่วยทำหัตถการ หลังเล่าเรื่องที่ลูกสาวเอ่ยปากทักให้ฟัง ทุกคนสีหน้าราบเรียบยอมรับโดยดุษณีไม่มีใครแสดงความเห็น การทำหัตถการเป็นไปโดยเรียบร้อย (คนทำคิดเอาเองคนเดียวนะ) คนช่วยใกล้ชิดดูตื่นเต้นและลนกันไปบ้างกว่าธรรมชาติที่เคยเป็น หลังทำได้แจ้งผลผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าเรียบร้อยดี มีเสียงนินทาจากลูกศิษย์คนสนิทมาเข้าหูคนสังขารร่วงโรย ทำนองว่าก่อนทำหัตถการทุกคนที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องกับที่ลูกสาวคนเล็กทักมา แต่หลังทำไม่กล้าถาม ขอฝากรอยช้ำ (ใจ) นี้ไว้ก่อน รอประเมินผลการปฏิบัติงานรอบ 6 เดือนครั้งหน้าเถอะ ลูกน้องทั้งหลายรวมลูกสาวคนเล็กด้วย (เขาครบรอบประเมินก่อนตั้งงบค่าใช้จ่ายรายเดือนส่วนตัวให้ใหม่) รับรองมีลุ้นเหมือนบอลพรีเมียร์ลีก
วันนี้ได้เข้าเยี่ยมพ่อเมืองสาครใกล้ชิดเป็นครั้งที่ 4 ต่างกันที่ครั้งนี้แต่งตัวป้องกันลดระดับลงเพราะท่านตรวจไม่พบเชื้อโควิดในปอดแล้ว และเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้บุตรีคนโตท่านได้มองเห็นภาพการเยี่ยมจากห้องกระจกด้านนอกในระหว่างที่เข้าเยี่ยม ท่านนอนนิ่งโดยใช้เครื่องช่วยหายใจพร้อมยาทำให้สงบบนเตียงผู้ป่วย รับฟังการสนทนาฝ่ายเดียวเช่นครั้งก่อน เริ่มต้นจากการทักทายกันหลังห่างหายไปหลายวัน แล้วจึงเล่าเรื่องที่ได้ติดตามให้ข้อมูลกับภรรยาและบุตรีท่านมาตลอดพร้อมข้อห่วงใยที่สมาชิกครอบครัวทั้ง 5 สาวฝากมา
พร้อมกับแจ้งความคืบหน้าผลการตรวจรักษาของตัวท่านเองและแผนการดูแลรักษาต่อไป ปิดท้ายด้วยความคืบหน้าเรื่องโรงพยาบาลสนาม “ศูนย์ห่วงใยสาคร” ที่ท่านเป็นห่วงเป็นนักเป็นหนาก่อนป่วยหนักครั้งนี้ ตอนนี้ขึ้นรูปได้กว่า 2,000 เตียงแล้ว ใช้งานไปแล้ว 1,500 เตียง และกำลังจัดสร้างให้ได้จนครบ 3,600 เตียง เพื่อให้เพียงพอกับผู้ป่วยหลักร้อยต่อวันจากการตรวจเชิงรุกในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ช่วงนี้เองที่เห็นคลื่นสมองที่มีเครื่องติดตามอยู่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม พร้อมน้ำตาเอ่อล้นที่หัวตาทั้งสองข้าง เสียดายว่าลืมแจ้งท่านถึงความห่วงใยที่หัวเรือใหญ่ของคณะรัฐมนตรีได้ฝากผ่านมาด้วย”
เช็กที่นี่ ส่วนต่าง ประกันราคาข้าว งวดที่ 12 ประกันรายได้เกษตรกร
นายวัฒนศักย์ เสือเยี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ประธานอนุกรรมการกํากับดูแลและกําหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ลงนาม ประกาศคณะอนุกรรมการกํากับดูแลและกําหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรื่อง การกําหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/2564 รอบที่ 1 (งวดที่ 12)
ตามที่คณะอนุกรรมการกํากับดูแลและกําหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าว ได้ออกประกาศคณะอนุกรรมการกํากับดูแลและกําหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้ เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการ การดําเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ไปแล้ว นั้น
เพื่อให้การดําเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 เป็นไปด้วย ความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ของรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้ สูงขึ้น คณะอนุกรรมการกํากับดูแลและกําหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 31/2563 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 เห็นชอบการกําหนดราคาเกณฑ์กลาง อ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 (งวดที่ 12) ดังนี้
1. ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประจําวันที่ 28 ธันวาคม 2563 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่างตาม โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 563/2564 รอบที่ 1 (งวดที่ 12) ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/2564 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 18-24 มกราคม 2563 สําหรับข้าวเปลือกชนิดต่าง ๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้
สำหรับการขยาย พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เนื่องด้วยในสถานการณ์ปัจจุบันยังมี ผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวและมั่วสุมอยู่ จึงเห็นควรให้ขยาย พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพื่อควบคุม แต่อาจพิจารณาผ่อนปรนในบางข้อ เช่น ระยะเวลาเคอร์ฟิว โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ว่า ต้องพิจารณาในภาพรวม ใช้ระยะเวลาที่เหมาะสม เป็นขั้นเป็นตอน รวมทั้งใช้มาตรการทางสังคมร่วมด้วย เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน เกิดความร่วมมือช่วยเหลือกัน เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง